เดิร์ก (Dirk)
BONEBRIDGE
"เครื่องประมวลเสียงใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายจริงๆ และไม่ใช่แค่การได้ยินนะ แต่คุณภาพชีวิตของผมก็ดีขึ้นตั้งแต่ใช้ BONEBRIDGE"
ตอนอายุ 25 ปี ผมได้รับการวินิจฉัยว่ามีกลุ่มอาการ Meniere ซึ่งหมายความว่าการได้ยินของผมนั้นเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตลอดช่วงระยะเวลา 20 ปี จนกระทั่งหูข้างซ้ายของผมหนวกสนิท
ผมพบว่าการมีหูหนวกข้างเดียวทำให้เกิดปัญหาเฉพาะตัว เช่น ผมเสียการรับรู้ทิศทาง และทุกเสียงดูเหมือนจะมาจากทางขวาซึ่งบางครั้งทำให้เกิดสถานการณ์ที่ยุ่งยากลำบากใจ เวลาโทรศัพท์มือถือกำลังดังอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่ง ผมก็หาไม่เจอว่าเสียงมาจากตรงไหน หรือเวลาที่ลูกๆ เรียกผม “พ่อ มานี่หน่อย!” คำว่า “นี่” สำหรับผมอาจหมายถึงห้องนั่งเล่น ครัว ห้องเก็บของหรือห้องน้ำก็ได้
ผมมีปัญหามากในการตามการอภิปรายให้ทันในระหว่างการประชุมที่ที่ทำงาน และผมก็ตามการสนทนาในร้านอาหารไม่ทันด้วย ในที่สุดผมได้ทดลองเครื่องช่วยการได้ยินหลายชนิด ซึ่งเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ๋เลย แต่ความไม่สบายที่ต้องใส่อุปกรณ์ไว้หลังใบหูหรือในหูก็ทำให้ผมรำคาญจริงๆ
ผมเคยได้ยินเรื่องเครื่องช่วยการได้ยินแบบติดกับกระดูกซึ่งฝังสกรูในกะโหลกศีรษะ แต่ผมรู้สึกว่าความเสี่ยงสูงเกินไป แล้วผมก็ได้อ่านบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยี BONEBRIDGE และอยากเรียนรู้ให้มากขึ้นจริงๆ ก็เลยนัดกับแผนกหูคอจมูกที่คลินิกแถวบ้านเกือบทันทีเลย
ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นานว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ผมกำลังมองหาอยู่ เป็นระบบที่ผมใส่ได้สบาย และผิวหนังของผมยังอยู่ครบดี
การผ่าตัดทำตอนกลางวันที่โรงพยาบาลพอตอนเย็นผมก็กลับบ้านได้แล้ว ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และผมกลับไปทำงานได้หลังจากนั้นสัปดาห์หนึ่ง หลังจากการผ่าตัดสักสองสัปดาห์มีการปรับตั้งค่าและปรับแต่งเครื่องประมวลเสียงของผมเป็นครั้งแรก และทันใดนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา
ผมได้ใช้ระบบ BONEBRIDGE มาปีหนึ่งแล้ว และผมพูดได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ เกินความคาดหวังของผมไปมาก คุณภาพและความชัดของเสียงดีกว่าที่ผมจินตนาการได้ไปมาก
ผมตามบทสนทนาได้ทันอีกครั้งในระหว่างการประชุม และร่วมสนทนากับเพื่อนๆ เวลาออกไปร้านอาหารได้ เครื่องประมวลเสียงใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายจริงๆ และไม่ใช่แค่การได้ยินนะ แต่คุณภาพชีวิตของผมก็ดีขึ้นตั้งแต่ใช้ BONEBRIDGE